ก็ยังมาดึกๆ อยู่เป็นประจำ ช่วงนี้จะเปลี่ยนเวลามากันสักหน่อย เป็นยังไงกันบ้างละครับวันนี้ ร้อนจริงๆ ลูกค้าเกือบจะเป็นลม เพราะเร่งเก็บของมากจนเกิดไป ก็ไม่รู้ว่าทำไม ลูกค้าถึงเพิ่งมาเก็บของเอาก่อนที่จะขนย้ายไม่กี่ชั่วโมง พยายามเลื่อนคิวรถกระบะขนของให้ไกลออกไปเรื่อยๆ กว่าขนของกันจริงก็เกือบจะเที่ยง ก็ยังใช้บริการกันได้ทุกวัน ราคารถกระบะย้ายของไม่แพง จะด่วนจะรีบแค่ไหนเราก็ไปบริการได้เลย ค่าเหมาะรถกะบะขนของราคาโดนใจอย่างแน่นอน
อย่างที่ได้กลว่าไว้ข้างต้น คือผมเองกับน้องก็งงว่าทำไมถึงรีบร้อนอะไรขนาด คือก็จองคิวกับทีมงานมานานพอสมควรแล้วนะ เคยเลื่อนวันมาแล้ว 1 ครั้งแต่ผมก็ยอมให้เลื่อนได้เนื่องจากว่าวันที่ขอเลื่อนกับวันที่ย้ายจริงมันห่างกันอีกไกลเลย ก็เลยเลื่อนวันมาเป็นวันนี้แทนให้ แล้วเมื่อ 2 วันก่อนจะมาขอเลื่อนอีก ทีนี่เลื่อนไปแบบไม่มีกำหนดเลย ตรงนี้ผมยอมไม่ได้แล้วเพราะว่าผมลงคิวงานเอาไว้ จัดตารางเดินรถเอาไว้แล้วมันเลื่อนอะไรมาได้แล้ว ถ้าไม่ย้ายวันนั้นคือยังไงก็ต้องเสียมัดจำ ลูกค้าก็ไม่อยากจะเสีย ไปถึงหน้างานลูกค้าก็ไม่พูดไม่จากับเราเท่าไหร่นักดูท่าทางรีบร้อนจริงๆ คืออะไรยกเองได้เขายกเองเลยแล้วเอาไปที่รถ จะบอกว่าเรามาช้ายิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่เลยเพราะผมเข้าก่อนเวลานัดเกือบ 30 นาที เป็นทางลูกค้าเองที่พยายามให้เราเข้าช้ากว่านั้นหน่อย ก็ย้ายทุกอย่างเกือบจะเสร็จแล้วพอเวลาเกือบจะบ่ายสองโมงลูกค้าก็บอกให้เราพอแค่นั้น ทั้งที่ของก็ยังเหลือกันอยู่พอสมควร แต่ลูกค้าก็บอกให้พอ เหมือนว่าเวลาบ่ายสองมันมีผลอะไรกับเขาสักอย่างหนึ่ง ผมกับน้องพอจะเดาสถานการณ์ออกได้ว่าลูกค้าเขาหนีอะไรอยู่ก็น่าจะเป็นแฟนที่อยู่ห้องเดียวกันนั้นละครับ เพราะของใช้ผู้ชายก็ยังวางอยู่เต็มห้องไปหมด ไม่ได้มีการเก็บอะไร แต่ในเมื่อลูกค้าไม่บอกอะไร เราก็ไม่ถามครับ จะมาย้ำความเข้าใจถูกของเราก็เมื่อลงมาจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายกับทางห้องพักแล้ว ก็น่าจะเป็นค่าปิดปากนั้นละครับ เพราะการจะย้ายห้องได้มันต้องผ่านผู้ดูแลตึกหรือคอนโด คือยังไงมันก็เลี่ยงไม่ได้รถเอามาคันใหญ่ขนาดนี้ยังไงก็ต้องรู้อยู่แล้ว แต่ก็ต้องทำเป็นไม่รู้ อันนี้ขึ้นอยู่กับความสนิทกันของลูกบ้านกับคนดูแลตึกด้วย เพราะถ้าเป็นตึกใหญ่ๆ มีทางเดียวเลยคือต้องทยอยขนย้ายออกไปเรื่อยๆ จนหมด หรือไม่ก็ปล่อยห้องทิ้งไว้เลยแล้วไปแต่ตัว เพราะโครงการใหญ่ๆ เขาจะมีตรวจห้องอยู่แล้วก่อนจะออก แต่ที่นี้ไม่มีเพราะเป็นคอนโดให้เช่าธรรมดาๆ คือก่อนจะออกไปลูกค้าบอกกับเราว่าถ้าใครโทรเข้ามาถามว่าไปส่งลูกค้าที่ไหนให้ตอบเป็นที่อื่นไปหรือไม่ก็อย่าบอก ซึ่งเอาตามตรงผมไม่เลี่ยงเลย ผมจะตอบไปตรงๆ เลยว่าเราบอกไม่ได้แค่นั้น แล้วจบ
มีบ้างกรณีซึ่งมันเคยเกิดขึ้นกับเราแค่ 1 ครั้งแต่ทำงานมา คือแฟนลูกค้าแจ้งความจับเลยครับในข้อหาขโมยของซึ่งก็ต้องไปเคลียกันที่โรงพัก ซึ่งวันโชคดีที่ทางตำรวจเขาเข้าใจพวกผมก็เลยกันพวกผมเอาไว้แล้วให้ฝ่ายชายกับฝ่ายหญิงเขาไปตกลงกันเอาเอง สิ่งที่มันช่วยเราจริงๆ คือกล้องวงจรปิด เพราะไม่มีโจรคนไหนที่จะมาขโมยแล้วจะมีลงทะเบียนรถไว้ที่รายงานการเข้าออกตึกอย่างแน่น บัตรประชาชนผมก็มีให้พร้อม เรียกตัวผมขึ้นไปให้ปากคำที่โรงพักผมยังไปให้เลย แต่เรื่องเดียวที่ผมบอกไม่ได้เลยคือลูกค้าอยู่ที่ไหน สุดท้ายตำรวจให้โทรคุยกันเอาเอง ทางฝ่ายผู้ชายไม่รู้ว่าเสียใจหรือว่าเสียหน้ากันแน่ฮ่าๆๆ คือเราวิ่งตามงานจ้างจริงๆ เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าจุดประสงค์จริงๆ ของลูกค้าในการย้ายคืออะไร เราทำไปตามความต้องการของลูกค้าก็เท่านั้น ส่วนปัญหาที่จะเกิดขึ้นมาตามหลังลูกค้าก็ต้องเป็นคนจัดการและรับผิดชอบไปครับ โดยเฉพาะเรื่องแบบนี้ ถ้าเกิดว่าการย้ายของ ของเราทำให้ทรัพย์สินของทางตึกหรือว่าคอนโดเสียหาย อันนี้เรายินดีชดใช้ให้ แต่เรื่องอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับเราเลย ทำงานรถกระบะขนของต้องเจออะไรแบบนี้บ่อยๆ ครับเจอบ่อยจนชิน ฮ่าๆๆ
[ninja_form id=2]