เจอกันวันร้อนๆ อีกตามเคย ไม่มีวันไหนไม่ร้อนเลยช่วงนี้ เอาจริงๆ การสั่งปิดห้างวันแรกนี่น่ากลัวมากเลยนะครับ มีลูกค้าหลายคนจ้างรถกระบะขนของไปขนของที่ห้างกันเยอะเลย วันที่ประกาศวันแรกได้มา 3 งาน วิ่งกันจนห้างปิด ขนกันไม่รู้กี่กิโลกรัมต่อรอบ อะไรขึ้นได้พยายามขึ้นให้หมด แต่เอาจริงๆ มันก็ไม่น่าต้องซื้อขนาดนั้นเพราะมันเป็นแค่การปิดบางส่วนเท่านั้น อาหาร ของกินยังปกติหมด แค่ต้องซื้อกลับบ้านเท่านั้น แต่ทีมกระบะรับจ้างขนย้ายของของเราก็รับครับ ติดต่องาน รถกระบะขนของ : https://www.รถกระบะรับจ้าง.com/รถกระบะขนของ/
ช่วงนี้ ขนได้ หรือ ขนไม่ได้ ต้องคอยดูดีๆ เพราะยังสับสนอยู่กับของบางอย่างสินค้าบ้างชนิดที่ไม่รู้ว่าขนได้จริงๆ ใช่หรือเปล่า แต่โดยปกติแล้วอาหารกล่อง สารเคมีต่างๆ ผมจะไม่ได้รับย้ายอยู่แล้วเพื่อกันปัญหาอะไรหลายๆ อย่าง เช่นพวกกล่องข้าว ที่ไม่ใช่กล่องเปล่าๆ นะครับ พวกร้านข้าวที่ชอบรับเหมาทำข้าวกล่องขาย ถ้ารถเขาขาดเขาก็มักจะมาจ้างรถกระบะขนของให้ไปขนย้ายให้ เคยไปทำมาไม่กี่ครั้ง แล้วมันรู้สึกว่าไม่ใช้ทางที่ชอบครับ แล้วก็ไม่ชอบกลิ่นของอาหารด้วยครับ คือไม่ใช่ว่าเขาทำไม่อร่อยนะครับ ลองนึกภาพดูว่าแค่เอาข้าวผัดกะเพรามาไว้ในรถเก๋ง 1 กล้องกินมันก็อบอวลอยู่แล้ว แต่งานอย่างนี้เวลาไปขนย้ายที่เป็นร้อยๆ กล่อง กลิ่นมันจะขนาดไหน ส่วนเรื่องสารเคมีอันนี้บอกตามตรงไม่มีความรู้เลย ว่าอันไหนอันตราย อันไหนไม่อันตราย เลยตัดปัญหาไปเลยว่าไม่รับทุกอย่างที่เป็นสารเคมี พวกที่เป็นสารเคมีเดิมๆ เลยจะไม่รับครับ แต่ถ้ามันผ่านกระบวนการมาแล้ว เช่น ทำเป็นเจลล้างมือ ทำเป็นเครื่องสำอาง ครีมต่างๆ อันนี้รับย้ายได้หมด งานแรกวันนี้ก็ดูจะเป็นเรื่องที่แอบน่ากลัวหน่อยๆ เข้าไปในเมืองดูเงียบเหงาจริงๆ ทุกอย่างเกือบจะหยุดไปหมด วันนี้ต้องเข้าไปย้ายสำนักงานสำนักงานแหล่งหนึ่ง ด้วยความที่มันเป็นวันหยุด สำนักงานมันก็จะดูโล่งๆ หลอนๆ หน่อยตามที่เราคุ้นตากันดี แต่อันนี้มันรวมคำสั่งปิดเมืองเข้าไปด้วย ของใหญ่ๆ ทุกอย่างถูกวางเตรียมเอาไว้แล้ว จัดของกันยากหน่อย เพราะว่าเสนอลูกค้าไป 2 คัน แต่ลูกค้าจะเอาแค่คันเดียว บริษัทลูกค้าเช่าสำนักงานเอาไว้เป็นพื้นที่เล็กๆ พื้นที่หนึ่งในตึกนั้น ซึ่งก็มีอีกหลายบริษัทที่เช่าอยู่ด้วยเหมือนกัน ในชั้นเดียวกัน ของไม่ได้เยอะมากเท่าไหร่ แต่มันก็ควรจะต้องใช้รถ 2 คันอยู่ดี เพราะบางอย่างถ้าเอาไปไม่ได้ก็ต้องทิ้งไปเลย ลูกค้าคงไม่มีวันกลับมาอีกถ้าไม่จำเป็นจริงๆ เพราะอีกที่มันอยู่ไม่ได้ใกล้จากที่นี่ ถ้านั่ง BTS มันก็ใช่เวลาไม่มาก แต่ขับรถมาเองด้วยสภาพการจราจรขนาดนั้นต่ำก็น่าจะ 45 นาที เข้าไปแล้ว ของมันก็ไปไม่หมดจริงๆ ครับ ก็เหลืออยู่หลายอย่างอยู่แต่ลูกค้าก็บอกไม่เป็น แต่ลึกๆ ก็คงแอบผิดหวังอยู่ไม่น้อย อีกงานนี่คือรับของและตัวลูกค้าไปส่งที่สถานีรถขนส่งแห่งหนึ่งซึ่งก็อย่างที่รู้ๆ กันว่าคนมันจะเยอะมากๆ เบียดกันแน่นไปหมด ผมพยายามขนย้ายของให้หมดในรอบเดียวเลย เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเข้าไปเดินวนหลายรอบมันเสี่ยงครับ
หลังจากงานนั้นก็ได้พักกันชั่วโมงหน่อเพราะนัดลูกค้าอีกคนไว้ค่อนข้างที่จะเย็นหน่อย งานนี้ไปขนของบ้านลูกค้าซึ่งสถานที่ก็ไม่ดีต่อการจอดรถเท่าไหร่ มันเป็นซอยแคบแถมมีหมาเจ้าถิ่นที่โคตรจะดุเลย ทำงานรถกระบะขนของร้านหมาๆ นี่เจอกันบ่อยครับ เวลาโดนกัดมาทีหนึ่ง มันไม่เจ็บหรอกครับ แต่ว่ามันเสียเวลาไปหาหมอ ว่าจะฉีดยาครบ มันเสียเวลาไปกี่วัดไม่คุ้มเลย งานนี้ก็ต้องพยายามอยู่ห่างๆ มันเอาไว้ เข้าถึงห้องของลูกค้าก็ต้องเจอเข้ากลิ่นไม่พึงประสงค์เท่าไหร่ ใครเคยเลี้ยงแมวจะเข้าใจดีว่ากลิ่นเยี่ยวมันรุนแรงขนาดไหน ชวนให้มึนหัวเป็นที่สุด เพราะคิดเล็กๆ กับน้องว่าเหตุผลหนึ่งที่ลูกค้าอยู่ที่เดิมไม่ได้มันมาจากตรงนี้ด้วย คือปล่อยแมววิ่งไปวิ่งมา แล้วก็ดูเหมือนว่ามันจะถ่ายไปทั่วเลย น่าก่อความรำคาญให้ใครหลายคนในชุมชนก็อาจจะโดนเจ้าของบ้านไล่ที่เอาได้ครับ คือผมเป็นคนไม่ชอบกลิ่นอะไรแบบนี้อยู่แล้วทำงานไปก็เมากลิ่นไปครับหน้าจะมืดเอาเพราะหายใจก็ได้แต่กลิ่นนั้น
[ninja_form id=2]