เปิดงานกันมันตั้งแต่เช้ากว่าจะได้ไปบริการรับย้ายหอจริงเกือบเที่ยง วันไหนไม่มีเรื่องแสดงว่าวันนั้นไม่ได้ทำงานรับย้ายบ้าน เรายังคงเปิดให้บริการรับย้ายสิ่งของกันอยู่ลูกค้าอยากจะย้ายวันไหนก็สามารถย้ายได้เลย วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ต้องทำงานรับย้ายบ้านเหมือนกัน แต่ลูกค้าก็ดันโทรมายกเลิกงานคิวเช้าไปเสียก่อน เป็นอะไรที่ค่อนข้างน่าเสียมากๆ เพราะผมเองก็เตรียมคนเตรียมรถเอาไว้หมดแล้ว แถมตื่นเช้าสุดๆ เพื่อที่จะเตรียมตัวไปรับงานเช้า
เมื่อเช้าสดๆ ร้อนๆ เลย ตื่นมาด้วยความร่าเริงเพราะงานวันนี้ค่อนข้างที่จะเยอะ นานๆทีได้งานเยอะช่วงนี้เป็นอะไรที่ดีมากๆ ก็นั่งเพลินๆ รอเวลา ลูกค้าก็ส่งข่าวร้ายเลย ว่าวันนี้ตอนเช้าทีมงานเราไม่ต้องไปขนของแล้ว เพราะทางลูกค้าให้เพื่อนมาขนย้ายให้แล้ว อารมณ์ที่ดีๆ อยู่ก็เศร้าเลยครับงานก็หายากอยู่แล้วต้องมาเสียงานไปอีก ก็ต้องแจ้งกับลูกทีมทุกท่านให้ได้ทราบว่าวันนี้เราจะไม่มีงานช่วงเช้าให้วิ่ง แต่ผมก็ยังไม่ได้ถอดใจเสียทีเดียวก็พยายามรองาน หางานให้ช่วงเช้ามันงานให้ได้ก็ยังทำไม่สำเร็จก็ต้องรองานต่อไปเลย กว่าจะได้เริ่มงานตัวนี้กินเวลาไปเกือบๆ เที่ยงเพราะลูกค้าดันลืมกุญแจไว้ที่ทำงาน ก็เลยต้องขับรถกลับไปเอาทีมงานของเราก็ต้องนั่งรออยู่หน้าบ้านงานนี้ลูกค้าเขาจะย้ายไปที่คอนโดใหม่ที่เพิ่งจะซื้อ คือย้ายออกจากบ้านที่อยู่มาตั้งแต่เกิดไปคอนโดที่มันใกล้ที่ทำงานมากกว่าเดิม เพราะค่าน้ำมันรถต่อเดือนมันก็พอที่เราแค่เพิ่มเงินเข้าไปก็ผ่อนคอนโดได้แล้ว งานนี้ของค่อนข้างเยอะ เพราะตัวลูกค้าก็กะไม่ถูกว่าห้องคอนโดมันต้องมีอะไรบ้าง ก็ขนไปซักเยอะเลย โซฟา ที่นอน ตู้เย็น เครื่องซักผ้า แล้วก็อื่นๆ อีกมากมาย กว่าจะไปถึงคอนโดก็ใช้เวลากันอยู่นานต้องเจอหลายอย่างทั้งระยะทางแล้วก็รถที่ติดเอามากๆ ก็พอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมลูกค้าออกมาอยู่คอนโด ย้ายของทั้งหมดเข้าห้องก็เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีที่จะเดิน คงต้องจัดเก็บห้องกันอยู่พักใหญ่เลยห้องที่ซื้อมาขนาดไม่ได้ใหญ่มา แต่ก็มีแยกห้องนอน ห้องรับแขก ห้องครัว ตามแบบที่คอนโดทั่วไปตอนนี้มีกัน งานตัวต่อไปอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากงานคิวนี้เท่าไหน มันเป็นเรื่องที่จะเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก ตั้งแต่ทำงานรับย้ายบ้านมาครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งที่ 2 หรือ 3 เองที่มันเกิดอะไรขึ้นแบบนี้ คือลูกค้าคิวต่อไปก็อยู่ที่ตึกนี้เหมือนกัน แต่มันคนละชั้นเท่านั้นเอง ตอนแรกที่รับงานก็ยังสับสนเพราะของแบบนี้มันไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ ความบังเอิญที่น่ายินดีขนาดนี้ ลูกค้าคนแรกพักอยู่ชั้น 15 ของตึก ส่วนอีกคนพักอยู่ชั้น 3 เราลาจากลูกค้าท่านแรกเสร็จก็ลงลิฟต์มาต่อที่ชั้น 3 เลย คนแรกย้ายจากบ้านไปคอนโด คนนี้ย้ายจากคอนโดกลับบ้าน เนื่องจากลูกค้าย้ายงานก็เลยต้องกลับไปตั้งหลักกันที่บ้านส่วนจะย้ายไปที่ไหนนั้นต้องรอหาห้องใหม่ให้ได้ก่อน ของก็จะมีค่อนข้างเยอะอยู่เหมือนกันดูจากจำนวนของแล้วลูกค้าน่าจะอยู่ที่นี่มาค่อนข้างที่จะนานเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน จำนวนเสื้อผ้า แล้วก็ของใช้ต่างๆ เยอะเป็นพิเศษ
ด้วยความที่ห้องมันเป็นห้องเช่าครับ พวกเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ๆ มันก็จะมีมาครบหมดอยู่แล้ว เวลาเราไปเช่าห้องใหม่ ถ้าอะไรไม่เสียเจ้าของห้องเขาก็จะไม่เปลี่ยนให้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นตู้เย็น ทีวี ไมโครเวฟ เตียงนอน แต่ที่นอนส่วนใหญ่ๆ จะเปลี่ยนให้ทุกครั้งนะครับหลังจากที่เปลี่ยนผู้เช่าอันนี้แค่ส่วนใหญ่ที่ผมเห็นมานะครับ เพราะบางทีเจ้าของห้องจะชอบให้ไปย้ายเฟอร์นิเจอร์เก่าๆ ไปทิ้ง แล้วส่วนใหญ่เลยก็จะเป็นที่นอนเราเอาไปทิ้งให้บ่อยที่สุดก็เอาของทั้งหมดไปส่งให้ไว้ที่บ้านของลูกค้าที่บ้านก็มีคุณแม่ของลูกค้ารออยู่ ส่วนตัวลูกค้าไม่ได้มากับเราด้วย เพราะต้องอยู่ทำเรื่องอะไรอีกพักใหญ่ ของทั้งหมดก็เอาไว้ที่ห้องของลูกค้าเลย ทางคุณแม่ของลูกค้าก็ทำความสะอาดเอาไว้อย่างดีแล้ว จริงๆ การย้ายงานมาอยู่ใกล้บ้านเป็นเรื่องที่ดีนะครับ มันประหยัดอะไรไปได้เยอะเลย ตัวผมเองยังคิดว่าโชคดีเลยที่ได้ทำงานใกล้ๆ บ้าน ถ้าอู่ผมอยู่ไกลกว่านี้คงดูและอะไรกันลำบากน่าดู
[ninja_form id=2]