เรารับย้ายบ้านย้ายคอนโดทุกที่ในกรุงเทพและปริมณฑล

          เริ่มต้นกันด้วยความปั่นป่วนตั้งแต่เช้าเลยครับมีน้องในทีมรับย้ายบ้านไม่สบายกะทันหันต้องหาคนมาช่วยงานย้ายบ้านด่วนเลยครับ ดีที่ยังพอจะมีอยู่บ้างครับ ไม่อย่างนั้นแย่แน่นอนครับ เพราะตัวผมเองตอนนี้ก็ออกงานได้ไม่เต็มที่ครับเพราะน้องในทีมลากลับบ้านที่ต่างจังหวัด 2 วันครับ แต่ยังเปิดรับงานอยู่ตลอดครับเรามั่นใจว่าเราไปบริการรับย้ายบ้านได้แน่นอนครับ ติดต่องาน https://www.รถกระบะรับจ้าง.com/รับย้ายบ้าน/ ไม่ต้องกังวลครับเรามีรถและทีมงานไว้พร้อมบริการตลอดครับ ยกของให้ทั้งหมดเลยครับ

          ก็อย่างที่ได้บอกไปว่างานเข้ามันวุ่นวายครับได้เพื่อนของเพื่อนน้องในทีมรับย้ายบ้านมาช่วยไว้สำหรับวันนี้ครับ งานรับย้ายบ้านคิวแรกเราต้องไปเจอกับฝูงหมาครับ บ้านลูกค้าเลี้ยงไป 5 ตัวแต่ไม่ใช่หมาใหญ่ครับพันธุ์เล็กครับแต่ไม่รู้ว่าชื่อพันธุ์อะไรครับ แต่มันก็เป็นที่นิยมอยู่เห็นเลี้ยงกันหลายบ้านมานานแล้วครับ ที่บ้านลูกค้ามี 5 ตัววิ่งกันวุ่นเลยครับกลัวจะเหยียบจริงๆ ลูกค้าก็ไม่ยอมจับขังเอาไว้นะครับ ของที่ผมต้องไปขนย้ายเลยมีที่นอนแล้วก็ชุดเครื่องนอนอีกประมาณ 2 ชุดใหญ่ๆครับ ใช้เวลาขนย้ายกันไม่นานครับ เพราะที่นอนของลูกค้าเป็นฟูกสปริงธรรมดาน้ำหนักค่อนข้างที่จะเบาอยู่ครับ ชุดเครื่องนอนก็ไม่ได้มีน้ำหนักอะไรอยู่แล้วครับ ไปส่งให้ลูกค้าที่คอนโดแห่งหนึ่งครับ ไม่ได้นานขนย้ายหรอกครับเรานานรอลิฟต์ขึ้นไปชั้น 17 นี่ละครับ ลิฟต์ขนของของตึกมีอยู่ตัวเดียวครับ ที่ใหญ่พอจะใส่ที่นอนได้ครับ ก็เอาไปไว้ที่คอนโดซึ่งในห้องมีเตียงประกอบรอไว้แล้วครับวางของทุกอย่างลงบนเตียงก็เป็นอันว่าจบงานไปครับ จบงาน 1 ทีมของเราแวะพักกินข้าวก่อนเลยครับ เพราะดูจากระยะทางทั้งงาน 2 และ 3 ทีมรับย้ายบ้านของผมอาจจะต้องยิ่งยาวๆครับ เพราะเวลามันค่อนข้างตรึงมือมากๆครับ งานรับย้ายบ้านคิวที่ 2 เริ่มด้วยความรวดเร็วครับ เราไปถึงที่คอนโดก่อนเวลาเล็กน้อยก็สามารถขนย้ายได้เลย เพราะลูกค้าเขาลงมาติดต่อทางนิติและแจ้ง รปภ. หน้าคอนโดไว้แล้ว ก็อำนวยความสะดวกให้เราได้เป็นอย่างดีครับ พาเราไปจอดที่หน้าลิฟต์ครับ งานนี้ของก็มีประมาณหนึ่งไม่มีชิ้นใหญ่ๆมีเพียงจักรยาน 2 คันที่ลูกค้าดูจะรักเอามากครับ เพราะลูกค้าลงทุนยกขึ้นรถแล้วมัดเองเลยครับ แต่ดูแล้วราคาคงจะแพงมากแน่ๆครับไม่อย่างนั้นลูกค้าไม่ดูแลดีขนาดนี้ครับ ข้าวของทั้งหมดที่เราใช้รถเข็นทั้งหมด 3 เที่ยวในการย้ายครับ คิวนี้ต้นทางและปลายทางจบค่อนข้างที่จะเร็วครับ จะมีไปช้าอยู่บ้างตรงที่รอลูกค้านี่ละครับ เพราะลูกค้าต้องนั่ง BTS มาที่คอนโดใหม่ครับ

          จากจุดที่ทีมอยู่กันนั้นต้องเดินทางอีก 30 กิโลครับ เพื่อที่จะคิวงานคิวที่ 3 งานนี้กดดันเล็กน้อยครับ เพราะต้องย้ายเข้าออกก่อนเวลา 5 โมงเย็นครับ ต้นทางอันนี้ผมไปทันอยู่แล้วไม่น่าจะเกิดบ่ายสองโมงถึงบ่ายสามโมงเพราะรถมีติดอยู่เป็นระยะๆ ครับ ของที่ต้องไปขนย้ายชิ้นใหญ่มีแค่ชิ้นเดียวแต่เป็นชิ้นที่ลำบากมากในการขนย้ายออกมา มันคือเครื่องซักผ้าฝาหน้าครับ ไม่ว่าคุณจะแข็งแกร่งมาจากไหน ถ้าเจอเครื่องซักผ้าฝาหน้าก็ต้องมีหยุดคิดกันบ้างละครับฮ่าๆๆ มันเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่หนักที่สุดแล้วครับ ตู้เย็นยังไม่หนักเท่านั้นเลยครับ ประเด็นมันอยู่ที่ว่าระเบียงมันแคบมา แคบแค่พอเครื่องซักผ้าเข้าไปได้ครับ ด้วยน้ำหนักที่หนักเอามากๆ มันเลยทำให้กว่าเราจะเอาเครื่องซักผ้าออกมาได้กินเวลาค่อนข้างที่จะนานครับ หยุดออกจากห้องเก่า 4 โมง ผมมีเวลาแค่ 60 นาที ในการไปให้ถึงที่หมายปลายทาง กะประมาณเวลาคราวคือมันทันแต่มันทันแบบน่าจะเหลือเวลาไม่มากครับ ผมไปถึงเป็นคันสุดท้ายของตึกอีกเช่นเคยครับ มีรถมาหลังจากผมด้วยก็ต้องมาใหม่พรุ่งนี้ครับ นั้นละครับความเสี่ยงที่เราไม่ต้องการให้มันเกิดขึ้นครับ ขนย้ายกันเป็นคิวสุดท้ายของตึกครับ กว่าจะได้ขนย้ายจริงๆ ก็ประมาณ 6 โมงครับ เพราะว่าเราต้องต่อคิวลิฟต์ขนของครับ ซึ่งก็นานเอาเรื่องอยู่เหมือนกันครับ เพราะบริษัทเฟอร์นิเจอร์เข้าก็ย้ายอุปกรณ์มาติดตั้งให้ลูกค้าเหมือนกันครับ มีหลายชิ้นส่วนๆ มาก แต่ห้องมันได้ใหญ่อะไรมากมายก็ยังแปลกใจอยู่ว่าถ้าแต่งห้องขนาดนั้นจะมีที่ให้เดินหรือเปล่าฮ่าๆๆ