ความร้อนนี้มันไม่ได้ช่วยให้งานดีขึ้นแถมยังจะแย่ลงอีกนะครับฮ่าๆๆ ร้อนมากจริงๆ วันนี้ถึงขั้นต้องแวะกลับเข้ามาอาบน้ำที่บ้านเลย ก็ยังคงวิ่งงานรับย้ายบ้านกันอยู่ทุกวันไม่มีวันหยุดเลย เราเปิดให้บริการกันเกือบทั้งปี ต้นเดือน สิ้นเดือน จ้างย้ายของได้เลยไม่ต้องเกรงใจกัน สำหรับวันนี้งานไม่ได้เยอะเท่าไหร่ ลูกค้าที่เข้ามาจ้างย้ายบ้านค่อนข้างที่จะน้อยหน่อยครับ แต่ก็พอให้ได้วิ่งงานกันได้ ติดต่องาน รับย้ายบ้าน : https://www.รถกระบะรับจ้าง.com/รับย้ายบ้าน/ เรียกได้ว่าช่วงนี้ก็ต้องเอาตัวรอดไปวันๆ เลยก็ว่าได้
เมื่อเช้าก็เกือบๆ จะได้ไปนอนกินข้าวแดงกันในห้องขังแล้ว ดีที่ว่าเรื่องมันไม่มีอะไรครับ เรื่องของเรื่องเลยคือนาฬิกาที่ลูกค้าอ้างว่าเรือนละ 40,000 บาท มันได้หายไปจากที่เก็บเดิมของมัน คือเราก็ขนย้ายกันตามปกตินั้นละครับ ของไม่ได้เยอะอะไรมากมายเลยใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่นัก พอขนย้ายกันเสร็จผลและน้องชายก็จะรออยู่หน้าให้ลูกค้าเขาตรวจห้องเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าขาดเหลืออะไรจะได้ยกไปให้หมดไม่ตกค้างซึ่งวันนี้มันก็เป็นแบบนั้นตามปกติ ลูกค้าก็เดินเข้าไปตรวจก็ปรากฏว่านาฬิกาที่มันอยู่ในห้องรับแขกซึ่งลูกค้าบอกว่าวางอยู่หน้าทีวีมันหาย คือต้องบอกอย่างนี้ก่อนครับว่าเราไม่มาเพื่อขนย้ายของทั้งหมดเรามาเอาแค่บางส่วนไปเท่านั้น เพราะของบางอย่างมันก็เป็นของทางเจ้าของห้องอยู่แล้ว ซึ่งลูกค้าเราเป็นผู้เช่า ถามว่าเรื่องนี้จบยังไงก็ต้องขอบคุณเทคโนโลยีที่ลูกค้าเข้าติดกล้องวงจรปิดเอาไว้ในห้องรับแขกด้วย ตอนลูกค้าหาไม่เจอลูกค้าก็ให้เรารออยู่หน้าห้อง แล้วก็ไปเรียกยามมาคุมเราเอาไว้อีกที คือผมเคยเจอแบบนี้ครั้งแรกผมไม่ชอบเลยนะครับ จะมีเรื่องกับทั้งลูกค้าแล้วก็ทางยามที่คอนโดด้วย สมัยนั้นเพิ่งจะเริ่มทำใหม่ๆ แล้วมาโดนอย่างนี้ครั้งแรก แต่ตอนนี้ชินไปเสียแล้ว เพราะทีมงานผมไม่ได้เอาไปอยู่แล้ว ให้เขาค้นได้ทั้งตัว ทั้งรถเลย สุดท้ายก็จะเจอว่าลูกค้าลืมไว้ที่ไหนสักที่อยู่ดี แต่เครสนี้ไม่เป็นอย่างนั้น เพราะจุดที่ลูกค้าบอกว่าวางนาฬิกาเอาไว้ในห้องรับแขกมันไม่มีนาฬิกาอยู่แล้วตั้งแต่ต้นเลย กล้องบันทึกทุกอย่างเอาไว้หมดเลย ดีที่ว่าเราเลือกจะช่วยลูกค้าถอดกล้องเป็นของอย่างสุดท้าย จริงไม่ได้หวังว่ามันจะช่วยเราในเรื่องนี้เลย แต่มันอยู่สูง แล้วเฟอร์นิเจอร์ที่พอจะปีนได้ผมก็ดันเอาลงไปไว้ที่รถแล้วก็เลยจะไปยืมบันไดของแม่บ้านมาใช้ก่อน แต่มันก็ดันมาเกิดเรื่องขึ้นเสียก่อน คืออย่างที่บอกไปว่ามันนาฬิกามันไม่ได้อยู่ที่ตรงนั้นตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ลูกค้าก็ให้ยามมาค้นตัวซึ่งขั้นตอนนี้ทำเร็วมาเพราะผมพกมือถืออยู่ที่ตัวแค่เรื่องเดียวนอกนั้นไว้ในรถหมดเลย ลูกค้าก็ไปค้นต่อที่รถ ซึ่งหน้ารถไม่มีแน่นอน กระโปรงหน้ารถลูกค้าก็ให้เปิด แล้วตอนแรกจะรื้อของบนรถด้วยซึ่งถ้าทำแบบนั้นเสียเวลามากแน่นอน ก็เลยเสนอให้ลูกค้าบอกให้ยามมายืนเฝ้าเราไว้ แล้วลูกค้ารีบขึ้นไปเช็กบนห้องอีกที ถ้าไม่มีอะไรแล้วให้ปิดห้องไปเลย แล้วพอดีว่าลูกค้ามีแม่กุญแจ 2 อันพอดีก็ให้ลูกค้าล็อกประตูหลังรถไว้เลย
พอไปถึงปลายทางลูกค้าก็ต้องเป็นคนเปิดประตูท้ายรถเอง ที่ต้องทำแบบนี้เพราะไม่รู้ว่ารถเรากับรถลูกค้าจะเคลื่อนห่างจนลับสายตาตอนไหน เดี๋ยวจะเป็นเรื่องขึ้นมาอีก ไปถึงปลายทางก็ตามขั้นตอนลูกค้าเฝ้าดูเราทุกอิริยาบถ เดิน ยก ทุกอย่างเขาดูหมด มีเพื่อนมาด้วยอีก 2 คน ของที่จะลงจากรถได้คือต้องผ่านการตรวจสอบจากคนทั้ง 3 คนก่อน ซึ่งมันก็ผ่านได้ทุกถุงสุดท้ายลูกค้าขึ้นไปหาที่ท้ายกระบะด้วยคือตรวจละเอียดเลย ผมก็ไม่พูดอะไรนะครับ เพราะผมมั่นใจมากว่ามันไม่มีแน่นอน เพราะตอนยกของผมไม่เห็นเลย คันทุกอย่าง ค้นตัวก่อน คันรถ ผมก็เลยบอกว่าไปตรวจที่รถตัวเองด้วยนะครับ ลืมเอาขึ้นมาบนคอนโดหรือเปล่า หลังจากที่ไม่เจออะไร ลูกค้าก็ดูจะอารมณ์เย็นขึ้นหน่อยครับ พูดจากันได้ตามปกติ แต่สีหน้าก็ดูออกละครับว่ากังวลแล้วก็ยังพร้อมที่จะกลับมาไม่ไว้วางใจเราตลอดเวลา ครั้งนี้หาของไม่เจอจริงๆ ซึ่งไม่รู้ว่าเจอหรือยังตอนนี้ ผมเองก็ขอให้เจอครับ หลายอย่างที่ทำกับทีมงานของเรา เราก็ไม่โกธรเลยครับเราเข้าใจทุกอย่าง
[ninja_form id=2]