เยอะจริงๆ ไม่ใช่จำนวนงานรับย้ายบ้าน แต่มันคือจำนวนรถ ช่วงสายๆ ของวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ รถก็จะติดเป็นพิเศษผิดกับวันธรรมดาที่รถจะไม่ติดเลยโล่งไปหมด แต่เสาร์-อาทิตย์จะวิ่งงานได้เร็วกว่าครับ ยิ่งเข้าไปในเขตพื้นที่ที่มีสำนักงานเยอะๆ อันนี้ยิ่งดีเลย เพราะไม่ค่อยมีใครเข้าออกพื้นที่ตรงนั้น บริการรับย้ายห้องพักของเราเปิดทุกวัน รับย้ายเฟอร์นิเจอร์เกือบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น รับย้ายเตียง รับย้ายตู้ ส่งรายละเอียดให้เราดูก่อนได้เลยครับ
วันก่อนก็ได้มีโอกาสเข้าไปทำงานที่สำนักงานแห่งหนึ่งมา เป็นสำนักที่ค่อนข้างใหญ่เหมือนกัน ตึกนี่ผมจะได้ว่าเราเคยมากันแล้วเมื่อประมาณ 2 ปีก่อนที่จะได้แม่นเพราะตอนนั้นเป็นอะไรที่หาที่จอดรถยากมากๆ คนจะเข้ามาใช้อะไรตึกนี่นักหนา ครั้งนี้ก็ไม่ต่างยังหาที่จอดรถอยากเหมือนเดิม รปภ. ก็ไม่อำนวยความสะดวกอะไรให้เลยก็ไม่เข้าใจว่าพี่เขาทำงานอะไร ไม่เหมือนคอนโดหลายที่ เวลารถขนของเข้าไปเขาจะหาที่จอดให้เลย อันนี้ต้องหาเอง แต่ก็ไม่เป็นอะไร ยากหน่อยแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเลย ก็ต้องรอคนอื่นออกแต่ต้องเดินไกลหน่อย เพราะจอดหน้าตึกก็ไม่ได้ สิ่งที่เราต้องไปขนย้ายมันคือลังเอกสาร และชุดคอมพิวเตอร์เก่าเรียกว่าโบราณไปเลยจริงกว่า เพราะมันเป็นหน้าจอหลังเตา เครื่องตอนแรกมันก็น่าจะสีขาว แต่ตอนนี้กลายเป็นสีเหลืองไปแล้ว งานนี้ลูกค้าประเมินผิดด้วย ตอนแรกผมแจ้งแล้วว่าของที่แจ้งมาทั้งหมดต้องใช้รถ 2 คันมาขนย้าย ลูกค้าก็ยังยืนยันว่า 1 คันหมด ไปเจอหน้างานจริงๆ คอมพิวเตอร์ก็20 กว่าเครื่องแล้ว ประเด็นคือลูกค้าลืมคิดไปว่าจอคอมพิวเตอร์มันซ้อนทับกันไม่ได้ รอบแรกเราก็ต้องเอาไปให้มากที่สุดเท่าที่ทีมรับย้ายบ้านจะทำได้เลย คือเอาลังเอกสารวางเป็นฐานก่อนแล้วค่อยเรียงเอาจอคอมเก่าไปเรียงไว้ด้านบน ถ้าไม่แบ่งลังเอกสารออกไปบ้างแน่นอนว่าลูกค้าต้องใช้ 3 รอบอย่างแน่นอน คือเรื่องของเรื่องลูกค้าเขาต้องการย้ายออฟฟิศไปอีกตึกหนึ่งซึ่งอยู่ไกลกันพอสมควร แน่นอนว่ามันมีผลกับชีวิตพนักงานทุกคนอย่างแน่นอน บางคนลงทุนซื้อบ้านใกล้ที่ทำงานเลย แล้วที่ทำงานย้ายสำนักงานไปอยู่ไกล กลายเป็นว่าบ้านไกลเฉยเลย ที่อยู่ใหม่ค่าครองชีพก็สูงสุดๆ เรียกได้ว่าโหดเลยละ ถ้าเงินเดือนเพิ่มก็จบแต่ถ้าไม่เพิ่มรับรองว่าต้องมีลาออกฮ่าๆๆ รอบแรกเป็นชุดคอมพิวเตอร์ จำนวนหลายสิบเครื่องกับลังเอกสารอีกจำนวนหนึ่ง รอบที่ 2 อันนี้จัดหนักเลย เป็นเกสารล้วนๆ บวกกับชั้นวางเอกสารที่ถอดแยกออกเป็นชิ้นๆแล้ว
ใช้เวลาค่อนข้างนานมากในการขนย้าย เพราะลังลูกค้าแบ่งเอาเองไว้เป็นลังเล็กๆ หลายลังเพื่อให้สะดวกในการเอามาใช้งาน มันก็เลยทำให้เราต้องเดินกันหลายรอบถึงแม้ว่าจะมีรถเข็นคอยช่วยก็ตามที ดีที่วันนั้นงานมันอยู่ 2 งานแล้ว ผมสามารถวิ่งวนมาเก็บงานเที่ยวที่ 2 ต่อได้เลย ถ้าไม่เกิดมาว่ามันแน่นๆ อย่างช่วงสิ้นเดือน คือลูกค้าต้องรอช่วงเย็นๆ ค่ำๆ เลย ถ้าด่วนรอไม่ได้ก็ต้องขนย้ายกันเอง หรือไม่ก็ต้องข้ามไปวันอื่นเลย งานของลูกค้าอีกท่านหนึ่งก็ถือได้ว่าเป็นงานหนักของทีมเราเหมือนกัน ด้วยตัวข้าวของแต่ละอย่างมันไม่ได้หนักอะไรมากมาย แต่เราไม่สามารถเอารถเข้าไปจอดหน้าบ้านได้ เพราะลูกค้าบ้านเข้าอยู่ริมคลองเลย แล้วมันเข้าออกได้ด้วยการเดินและรถ 2 ล้อเท่านั้น ความกว้างของสะพานปูน คือ รถจักรยานยนต์สวนกันได้ แต่ไม่คล่องตัวหนัก เอาเป็นว่าเวลาเดิน 2 คนก็เสี่ยงๆ ว่าใครจะตกน้ำ แล้วบ้านลูกค้าเขาไปลึกเลย ก็ต้องเดินเข้าไปขนของทั้งหมดออกมาจากบ้าน นานครับสำหรับงานคิวนี้ถือว่านานเลย เดินกันเมื่อยเลย จบงานคิวนั้นสายๆ ตอนแรกว่าจะรับงานมากอีกตัว แต่ดูสภาพทีมงานแต่ละคนแล้วมันล้ากันไปหมดแล้ว ก็เลยตัดสินใจไม่รับเลยจะดีกว่า ถ้าไม่ใกล้กับอู่หรือบ้านพวกเรามากจริงๆ ก็ไม่รับ เพราะพวกเราต้องพักกันแล้ว ไม่อย่างนั้นโหมหนักกันมากๆ พรุ่งนี้ต้องหยุดงานซึ่งมันจะไม่คุมเอาครับ สุขภาพเป็นเรื่องที่ต้องดูแลด้วยเหมือนกัน ถ้าทำงานหนักวันนี้แลกกับการที่ต้องหยุดงานพรุ่งนี้มันเสียมากกว่าได้ครับ