เป็นอีกสัปดาห์ที่งานโหดมากจริงๆ เสาร์อาทิตย์ที่ผ่านนี่ต้องบอกเลยว่างานด่วนเข้ามาค่อนข้างเยอะ งานรถกระบะขนของที่จองเอาไม่เยอะเท่าไหร่ แต่พอวิ่งๆ งานเยอะเฉยเลยคนส่วนใหญ่ที่เข้ามาวันนั้นก็คือรถกระบะขนของจ้างไว้แล้วไม่มาตานัด อันนี้ต้องบอกเลยว่าเป็นการกระทำที่แย่มากๆ ไปให้บริการกระบะขนย้ายบ้านล่าช้ายังไม่เสียหายเท่านี้เลย ทำแบบนี้มันจะทำให้ลูกค้าไม่ไว้วางใจกับทีมงานรถกระบะขนของทีมอื่นไปด้วย
อย่างที่บอกไปข้างต้นว่างานจองมันน้อย อย่างทีมของมผมมีอยู่ 1 งานเท่านั้นเองมีแค่นั้นจริงๆ ตอนแรกคิดว่างานเสาร์อาทิตย์จะเยอะกว่านี้ มี 1 งานก็ต้องวิ่ง 1 งานนั้นละครับ นัดลูกค้าไว้ 8.30 น. เป็นเราเองที่ไปถึงเร็วกว่ากำหนดคือ 8 โมงเช้า ลูกค้าก็พร้อมอยู่ที่จะให้เราขึ้นไปข้างบน แต่มันติดอยู่อย่างเดียวคือนิติจะให้เราขึ้น 9 โมงเช้า ลูกค้าที่ต้องลงมาจัดการเรื่องให้ ถามว่าเรารอได้หรือเปล่า ก็ต้องตอบว่าได้แบบไม่มีทางเลือก แต่คนที่รอไม่ได้จริงๆ นั้นคือลูกค้า ใจลูกค้าเขาอยากจะให้ย้ายออกก่อน 8 โมงเช้าด้วยซ้ำไป ลูกค้าก็เลยต้องลงมาจัดการเรื่องให้เราขึ้นห้องได้ตั้งแต่ 8 โมงเช้า ของที่เราต้องไปย้ายเป็นแค่ของบางส่วนของห้องลูกค้า มีโซฟา 2 ที่ขนาดเล็กแต่น้ำหนักไม่ได้เล็กเท่าไหร่ กับที่นอนยางพาราที่มีความหนาไม่มากแต่น้ำหนักก็มากอยู่ 2 อย่างสุดท้ายคือตู้หนังสือสีขาวสวยเลย 2 ตู้ เอาออกมาห้องก็ดูกว้างขึ้นเยอะ พอดีกว่าลูกค้าเขาจะปล่อยให้คนเข่าแล้วทีนี่คนเช่าเขาไม่เอาของพวกนี้เลยก็เลยต้องมาเอาออกจากห้องไป เอาของทั้งหมดไปลงที่บ้านลูกค้าซึ่งอยู่ห่างไกลกันพอสมควรเลยถึงแม้ว่าจะขึ้นทางด่วนก็ตาม ก็ไม่รู้ว่ามาซื้อคอนโดตรงไว้ได้ยังไง เพราะมันใกล้จากที่ลูกค้าอยู่มากๆ ทางโครงการน่าจะเป็นคนจัดการเรื่องค่าเช่าค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้ เมื่อลงของเสร็จทีมเรากำลังจะเดินทางกลับก็มีลูกค้าท่านหนึ่งโทรเข้ามาหาเรา อยากจะให้ไปช่วยย้ายของหน่อยเรื่องของเรื่องคือลูกค้าเขานัดทีมรถขนของเอาไว้แล้ว 1 ทีม โอนมัดกันเรียบร้อยแล้ว พอวันจริงที่จะย้ายดันไม่มา ติดต่อก็ไม่ได้หายเงียบไปเฉยๆ เลย การกระทำแบบนี้มันจะทำให้ลูกค้าไม่ไว้ใจทีมงานรถกระบะขนของที่เขาดีๆ ไปด้วย แต่แนะนำให้ลูกค้าหาทีมที่น่าไว้ใจ พิจารณาจากความเร็วในการตอบคำถาม ติดต่อสื่อสารได้ตลอดเวลาหรือเปล่า ประกอบไปด้วย สมัยนี้เว็บไซต์หลอกมีเยอะมากเลย ไปถึงหน้างานลูกค้าก็เร่งเลย เพราะว่าต้องย้ายออกก่อนเที่ยงวัน ผมไปถึงก็ 11 โมงกว่าๆ เข้าไปแล้ว ของที่มีนั้นค่อนข้างที่จะเยอะเลยเมื่อเทียบกับว่าอยู่ห้องนี้คนเดียว รองเท้าเป็น 10 คู่ เสื้อผ้าอีกเกือบ 10 ถุงใหญ่ๆ ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ พัดลมและอื่นๆ แต่ดีที่ลูกค้าอยู่ชั้น 1 ของตึกเลยยกของออกมาไม่ยากเท่าไหร่ รถเราก็สามารถจอดที่หน้าตึกได้เลย ย้ายของทั้งหมดไปลงไว้ที่คอนโดอีกทีซึ่งอยู่ไม่ไกลกันมากเท่าไหร่นัก
งานสุดท้ายของวันก็เป็นงานที่หนักหน่วงเอาเรื่องเลย คือการย้ายสำนักงาน งานนี้เราต้องวิ่งกันถึง 2 เที่ยวกว่าจะหมด งานนี้ถูกส่งต่อมาหาผมจากพี่ที่เขาวิ่งงานรถกระบะขนของอยู่แล้ว พอดีพี่เขาตั้งใจจะไปทำงานนี้เองแต่รถดันเกิดอุบัติเหตุผมก็เลยต้องไปทำแทน มันเป็นสำนักงานแห่งหนึ่งเช่าตึกแถวเอาไว้เป็นสำนักงาน แล้วลูกค้าต้องการไปอยู่อีกตึกหนึ่ง เพราะตึกนี้ลูกค้าจะเอาไว้ทำบ้านพักหลังจากมี่เป็นบ้านผสมกับสำนักงานมานาน เซตแรกที่เราต้องย้ายไปเลยคือ เฟอร์นิเจอร์สำนักงานต่างๆ คือลูกค้ามีทีมงานไม่เยอะแต่ 3 คนเท่านั้น แต่ของเท่านี้มันก็ยังต้องใช้ 2 คันอยู่ดี พนักงานทุกคนก็อยู่ดูการขนย้ายทั้งหมด เพราะยายสำนักงานอย่างนี้ถ้าไม่รีบแยกของเอาไว้ตั้งแต่แรกจะหาทีหลังมันก็ยุ่งยากแล้วครับ พอเอาไปลงที่สำนักงานใหม่ก็ควรแยกไปเลยของใครเป็นของใคร รอบ 2 ยังมีเฟอร์นิเจอร์อีกนิดหน่อย แล้วก็เป็นพวกของใช้ต่างๆ เอกสารนี่เยอะมากๆ เหนื่อยด้วยเพราะต้องขึ้นไปที่ชั้น 3 ของบ้านมันเป็นที่เก็บเอกสารเยอะมากเหมือนกันสำหรับสำนักงานขนาดเล็ก ใช้เวลาอยู่นานพอสมควรเลย สำหรับงาน 2 เที่ยวงานนี้[ninja_form id=2]