เป็นสุดสัปดาห์ที่รถติดมากๆ ได้โอกาสแล้วต้องขอบ่นสักหน่อย หลายๆ อย่างบวกรวมกันทั้งเงินเดือนออก วันสุดท้ายของการทำงานในสัปดาห์นี้ เมื่อคืนคงเป็นคืนที่สนุกสนานของใครหลายคน งานรถขนของมีเข้ามาค่อนข้างที่จะเยอะมันไม่แปลกเพราะมันเป็นช่วงรอยต่อระหว่างสิ้นเดือนกับต้นเดือน คนหารถขนของก็เยอะงานจ้างรถขนของก็มีเยอะตามไปด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย แต่คิวรถจะตรงกับเวลาที่ลูกค้าอย่างจะย้ายหรือไม่ นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ตื่นมาตั้งแต่เช้ามืดอากาศเย็นผิดปกติกว่าทุกวัน ต้องยอมรับว่าอากาศมันหนาวจริงๆ เปิดมือถือขึ้นมาดูสายเรียกเข้าตาผมนี่เบิกกว่าเลยว่าพลาดไม่ได้รับสายใครไปตั้งกี่คน ก็ไล่โทรกลับไปหาลูกค้า แต่ก็เป็นอย่างที่ผมคาดการณ์เอาไว้ว่าลูกค้าจะขอย้ายช่วงกลางคืน ใจผมอยากจะเปิดงานรถขนของกลางคืนนะครับ อยากเปิดมากจริงๆ แต่มันติดอยู่อย่างเดียวมันไม่มีใครดูแล เพราะต้องมีคนคอยเฝ้าตลอดจนกว่าจะหมดคิว เรายังเป็นทีมเล็กๆ อยู่ไม่สามารถทำอะไรได้ขนาดนั้น ถ้าเป็นช่วงสิ้นเดือนก็อย่างที่ได้บอกไปว่างานกลางคืนเราจะไม่รับเลยเพราะแต่วิ่งกลางวันก็เหนื่อยมากๆ แล้วถ้าไปกลางคืนต่ออันนี้คนของเรายังไม่พร้อมทำอะไรขนาดนั้นมากเท่าไหร่ เมื่อวานเป็นวันที่กลางวันอากาศค่อนข้างดีเลย เย็นกำลังดีมีบางพื้นที่มีฝนตกบ้างก็ส่งผลกับงานของเราอยู่ไม่น้อย งานรถขนของคิวแรกไปเริ่มกันที่คอนโดแห่งหนึ่งซึ่งลูกค้าให้ปิดไว้เป็นความลับเลยขนย้ายกันแบบกองโจร สถานที่ปลายทางนอกจากตัวลูกค้าแล้วมีแค่คนเดียวที่รู้ น้องในทีมผมยังไม่บอกเลยครับฮ่าๆๆ เราก็เข้าไปขนย้ายทุกอย่างด้วยความเร่งรีบเลย เพราะลูกค้าเองก็มีเวลาเก็บของไม่มากแค่ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่รถเราจะเข้าไปถึง ข้าวของยังเก็บได้ไม่เรียบร้อยด้วยซ้ำ ดูจากลักษณะห้องแล้วพักอยู่กัน 2 คน มีรองเท้าผู้ชาย เสื้อผ้าผู้ชายอยู่เต็มห้อง ลูกค้าที่จะย้ายออกเป็นผู้หญิงท่านหนึ่งครับ ของยังเก็บไม่เรียบร้อยจริงๆ ถุงบางถุงก็ยังไม่ได้ปิดเลยด้วยซ้ำครับ ใช้เวลาขนย้ายไม่นาน ลูกค้าน่าจะคุยกับทางเจ้าของคอนโดแล้วไม่อย่างนั้นผมคงจะไม่ได้เข้าออกได้สะดวกขนาดนี้ แต่อันนี้ไม่รู้จริงๆ ว่าเรื่องราวมันเกิดอะไรขึ้นผมมีหน้าที่เข้าไปย้ายก็เท่านั้น เฟอร์นิเจอร์ใหญ่ๆ ลูกค้าตัดใจไม่เอาอะไรไปเลย เพราะตู้เย็นที่ว่าจะเอาไปตอนแรกลูกค้าก็ไม่มีเวลามากพอที่จะละลายน้ำแข็ง ตู้เสื้อผ้ายิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยตัดทิ้งไปตั้งแต่วันที่คุยงานกัน ใหญ่สุดที่เอาน่าจะเป็นรถจักรยานยนต์นะ นอกนั้นเป็นของจุกจิกหมดเลย ขนย้ายของเสร็จลูกค้าไม่รอช้าเลย ผมเหลือจักรยานยนต์อีกคันที่ผมยังไม่ได้เอาขึ้นรถ ลูกค้าก็เรียกแท็กซี่เข้ามารับแล้วก็บอกให้ผมเจอปลายทางเลย คือทุกอย่างดูรีบมากๆ คือเร็วจริงๆ เรายืนอยู่ท้ายรถกำลังจะยกรถจักรยานยนต์ขึ้น ก็มีแท็กซี่มาจอดเทียบข้าง ลูกค้าเดินตัดหลังเราไป แล้วบอกว่าไปเจอกันที่ปลายทาง ส่งแผนที่ทางมือถือให้แล้ว จบ!! ขึ้นแท็กซี่แล้วออกไปเลย เราก็รีบเลยเอาของขึ้นรถได้ก็ตามไป
ด้วยความที่ลูกค้าคงไม่ทราบว่าผมค่อนข้างชำนาญพื้นที่นั้น เลยส่งแผ่นที่ที่มันวกไปวนมาให้ผม อ่านดูรวมๆ แล้วคือให้ผมขับวนไปวนมาก่อนสัก 2 รอบเพื่อให้ทีมขนย้ายเองจะได้จำสถานที่ไม่ได้ แต่ถึงผมรู้ผมก็ไม่บอกใครครับ เราไปถึงที่คอนโดเร็วกว่าที่ลูกค้าคิดเอาไว้ก็มีอาการตกใจเล็กน้อยฮ่าๆๆ ลูกค้ามีท่าทีสบายใจมากขึ้นไม่ร้อนรนเหมือนตอนเจอกันใหม่ๆ เราย้ายของทั้งหมดขึ้นไปบนห้องของลูกค้าเป็นห้องโล่งๆ เลยหนึ่งห้อง เฟอร์นิเจอร์ไม่มีสักชิ้นครับ แต่ด้วยของที่ขนย้ายมาก็น่าจะพออยู่ได้ไม่ลำบากอะไร ตู้เย็น เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างก็คงจะซื้อใหม่ตามทีหลังคงไม่ยาก เป็นงานรถขนของคิวแรกที่ต้องบอกว่าตื่นเต้นดีครับนานทีได้งานรถขนของแบบนี้มาทำก็สนุกดี การย้ายบ้านมันมีหลายสาเหตุครับแล้วแต่ความต้องการของลูกค้าเลย เรามีหน้าไปย้ายตามคำสั่งเขาก็เท่านั้นเอง แต่จะย้ายด้วยเหตุผลอะไรอันนี้เราก็ไม่มีความจำเป็นต้องรู้ นอกจากลูกค้าอยากจะเล่าออกมาเองนั้นละครับ เป็นประสบการณ์จากงานรถขนของที่อยากจะเล่าให้ฟังกันครับ
[ninja_form id=2]